05 สิงหาคม 2554

คนร้ายสังหารหมู่ “นอร์เวย์” 93 ศพ เป็นชาวฟรีเมสัน


วันนี้ (24) ผู้คนทั่วกรุงออสโลร่วมกันวางดอกไม้ไว้อาลัยเหยื่อเหตุระเบิดถล่มอาคารศูนย์ราชการ และการกราดยิงผู้คนในค่ายยุวชน



อันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก
เอ เจนซี / เอเอฟพี - คนร้ายผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญวางระเบิดรถยนต์ถล่มอาคารศูนย์ราชการกลางกรุง ออสโล และกราดยิงผู้คนในค่ายยุวชนพรรครัฐบาลบนเกาะแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ในช่วงเวลา ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ (22) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปรวมอย่างน้อย 93 ศพ ให้การยอมรับถึงการกระทำของตนว่าโหดร้ายป่าเถื่อน ทว่าเขาคิดว่าเป็นสิ่ง “จำเป็น” พร้อมกับยอมรับว่าเขาลงมือเพียงลำพังอีกด้วย นอกจากนี้ในไดอารีออนไลน์ของผู้ต้องหาซึ่งเป็นพวกขวาจัดรายนี้ยังระบุชัด แจ้งด้วยว่า เขาได้วางแผนเตรียมการโจมตีมาตั้งแต่ปี 2009 และเตรียมใจรับผลที่จะตามมา อย่างไรก็ตาม ตำรวจเชื่อว่าอาจมีคนร้ายอีกคนหรือมากกว่านั้นที่ร่วมก่อเหตุ

อันเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ผู้ต้องหาชาวนอร์เวย์ซึ่งคลั่งในศาสนาคริสต์และมีแนวคิดอนุรักษนิยมสุดโต่ง ถูกตำรวจจับกุมในวันก่อเหตุกราดยิงใส่ผู้บริสุทธิ์ในค่ายยุวชนฤดูร้อนพรรคเล เบอร์ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลนอร์เวย์ บนเกาะอูเทอยา คร่าชีวิตผู้คนไป 85 ราย ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน โดยก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เขาได้สังหารเหยื่อ 7 คนในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ ณ เขตอาคารที่ทำการราชการของกระทรวงหลายแห่งและทำเนียบรัฐบาล กลางกรุงออสโล

เบรวิก วัย 32 ปี กล่าวผ่านทนายความของเขาวันนี้ (24) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังถูกจับกุมตัว แสดงความจำนงว่าจะขึ้นแก้ต่างและอธิบายการกระทำของตนในชั้นศาล โดยเขาจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันจันทร์ (25) มิหนำซ้ำยังบอกด้วยว่า มีความจำเป็นที่จะต้องลงมือก่อเหตุดังกล่าวแม้จะทราบดีว่าเป็นการกระทำที่ อำมหิตก็ตาม

“เขาบอกว่า เขาเชื่อว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นชั่วร้ายป่าเถื่อน ทว่าในหัวของเขามองว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น” เกอิร์ ลิปเปสทาด ทนายความของเบรวิก ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวทีวี 2 นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า ลูกความของเขาได้วางแผนก่อคดีอุกฉกรรจ์นี้มานานแล้ว

ทั้งนี้ มีการพบเอกสารบันทึกออนไลน์ของเบรวิก ความยาว 1,500 หน้า ซึ่งประกอบด้วยบางส่วนของไดอารี, คู่มือการทำระเบิด ตลอดจนบทความการเมือง โดยในนั้นเขียนไว้อย่างแจ่มแจ้งว่า เขาได้เตรียมการสำหรับปฏิบัติการซึ่งเขาระบุว่าเป็น “ปฏิบัติการของผู้ยอมถูกทรมานถูกฆ่าเพื่อความเชื่อทางศาสนา (Martyrdom Operation)” นี้มาตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2009 แล้ว และในเอกสารชุดหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “ฤดูใบไม้ร่วง 2009 - ขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง” ก็ได้เขียนเล่าถึงการที่เขาเปิดธุรกิจทำเหมืองและฟาร์มบังหน้า เพื่อเตรียมก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้

“เหตุผลที่ตัดสินใจครั้งนี้ก็เพื่อสร้างฉากบังหน้าที่น่าเชื่อถือ ในกรณีที่ผมถูกจับฐานซื้อและลักลอบนำเข้าระเบิดหรือสารประกอบที่ใช้ทำระเบิด เช่น ปุ๋ย” เอกสารดังกล่าวระบุ

ในเอกสารออนไลน์นี้ เบห์ริง เบรวิก ยังได้สาธยายถึงความจงเกลียดจงชังที่ตนมีต่อศาสนาอิสลาม, ลัทธิมาร์กซิสม์ พร้อมกับแสดงความปรารถนาของตนที่จะเป็นอัศวินเทมพลาร์ (Templar Knight) ทั้งนี้ อัศวินเทมพลาร์เป็นองค์กรภาคีทหารคริสเตียนซึ่งรุ่งเรืองในยุคสมัยกลาง และมีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามครูเสด

ลงท้ายเบรวิกยังกล่าวยอมรับในสิ่งที่จะตามมาหลังลงมือก่อเหตุด้วย “ผมจะถูกตราหน้าว่าเป็นเดรัจฉานที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาหลังสงคราม โลกครั้งที่ 2” พร้อมกับกล่าวอีกว่า “นี่คงเป็นบันทึกสุดท้ายที่จะเขียน วันนี้วันที่ 22 กรกฎาคม เวลา 12.51 น. ขอแสดงความนับถือ แอนดรูว์ เบอร์วิก (นามแฝงซึ่งถอดเป็นชื่อนอร์เวย์ว่า อันเดอร์ส เบรวิก), ผู้บัญชาการอัศวินตุลาการ, อัศวินเทมพลาร์ยุโรป, อัศวินเทมพลาร์นอร์เวย์”

นอกเหนือจากเอกสารออนไลน์แล้ว เจ้าหน้าที่และคนที่รู้จักเขาก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เบรวิก ต้องการทำสงครามครูเสดต่อต้านการแพร่ขยายของอิสลาม ส่วนงานอดิเรกเขายังชอบปืนและยกน้ำหนักอีกด้วย

ในคลิปวิดีโอหนึ่งชื่อ “อัศวินเทมพลาร์ 2083” ซึ่งโพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทิวบ์ ทว่าต่อมาถูกลบออกไปเมื่อวันเสาร์ (23) แล้วนั้น เผยให้เห็นภาพถ่ายของเบรวิกหลายรูป โดยหนึ่งในนั้นเป็นรูปที่เขาสวมชุดประดาน้ำแนบกายของหน่วย “ซีล” กองทัพเรือ พร้อมกับโพสท่าทางกำลังเล็งปืนกลอยู่ นอกจากนี้ยังมีคำบรรยายใต้ภาพหนึ่งระบุว่า “ก่อนที่พวกเราจะทำสงครามครูเสดของเรา พวกเราจะต้องทำหน้าที่ด้วยการทำลายมาร์กซิสม์จนย่อยยับเสียก่อน”

ทางด้านตำรวจนอร์เวย์ระบุว่า พวกเขากำลังค้นหาผู้ที่ยังสูญหายไปในระหว่างเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่บนเกาะอูเท อยา โดยที่บอกด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งขึ้นไปถึง 98 ราย

อธิบดีกรมตำรวจนอร์เวย์ สเวย์นุง สปอนเฮม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เวลานี้ตำรวจกำลังพยายามสืบหาเบาะแสเพิ่มเติมว่าในวันเกิดเหตุมีคนร้ายคน อื่นๆ ร่วมด้วยอีกหรือไม่

“ระหว่างบันทึกปากคำกับตำรวจ เขาบอกว่าเขาได้กระทำการเพียงลำพัง” สปอนเฮม กล่าว แต่ “เราจะพยายามเค้นหาความจริงผ่านการสอบสวนต่อไป”

ที่กรุงออสโลวันนี้ (24) สมเด็จพระราชาธิบดีเฮรัลด์ที่ 5 กษัตริย์แห่งนอร์เวย์ พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีซอนยา, นายกรัฐมนตรีเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก, ตลอดจนบรรดารัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพิธีมิสซาไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิตซึ่งจัดขึ้นที่โบสถ์ออสโล ขณะที่มีประชาชนหลายพันคนเดินทางรวมตัวกันบริเวณด้านนอกของโบสถ์และจุดเทียน ไว้อาลัยด้วย

นายกฯ สโตลเตนเบิร์ก กล่าวไว้อาลัยแด่เหยื่อผู้เคราะร้ายในพิธีดังกล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามและทุกคนที่ถูกคร่าชีวิตไปจากเหตุโจมตีครั้งนี้ล้วนเป็นโศก นาฏกรรมทั้งสิ้น”

ทั้งนี้ นอร์เวย์เป็นประเทศที่สงบและนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่เคยเกิดอาชญากรรมรุนแรงชนิดทำให้เกิดความสูญเสียทางชีวิตและทรัพย์สินมาก มายดังเช่นเหตุการณ์ล่าสุดนี้ นอกจากนั้น ประเทศนี้ยังมีนโยบายเปิดกว้างสำหรับผู้อพยพมากมายที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติของรัฐบาลภายใต้พรรคเลเบอร์ดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จาก พรรคฝ่ายขวาอย่างโปรเกรส ปาร์ตี พรรคการเมืองซึ่งเบรวิกเคยเป็นสมาชิกอยู่ช่วงสั้นๆ

อัน เดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ผู้ต้องหาคลั่งลัทธิฟรีเมสัน และมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง
ในเครื่องแต่งกายแบบต่างๆ ภาพเหล่านี้มาจากเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ยูทิวบ์
ชุดกลางคือชุดฟรีเมสัน


นายกรัฐมนตรี เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก
กล่าวไว้อาลัยแด่เหยื่อผู้เคราะร้าย
ในพิธีมิสซาไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต วันนี้ (24)


ข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000091265

17 เมษายน 2552

เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ (liberty equality fraternity)

สัญลักษณ์ของฟรีเมสันกับคำขวัญ


กลายเป็นคำขวัญของสมาคมฟรีเมสัน ซึ่งแต่เดิมมาจากสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งมีเบื้องหลังเกี่ยวโยงอย่างเหลือเชื่อกับกลุ่มอิลลูมินาติด้วย

ตัวอย่างข้อความของหนึ่งในสำนักของฟรีเมสัน

WE BELIEVE that the ideals of Freemasonry,
"liberty, equality, fraternity," are not limited by considerations of race, class, creed, sex, nationality, or any of the other classifications so often used to oppress one or another group of humanity.

การทำลายคุกบาสติลล์ที่ฝรั่งเศสตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสใช้วันนี้เป็นวันชาติ

10 เมษายน 2552

เกาะสิงคโปร์ก็เป็นของฟรีเมสัน

ที่ตั้งอาคารของสมาคมฟรีเมสันที่สิงคโปร์
อาคารหลังนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสต์ของประเทศ

รูปปั้นของเซอร์โธมัส แสตมฟอร์ด รัฟเฟิล

เว็บไซต์ของฟรีเมสันสิงคโปร์
ขุนนางอังกฤษนามว่า "เซอร์โธมัส แสตมฟอร์ด รัฟเฟิล" เป็นฟรีเมสันคนสำคัญของอังกฤษ และเขาเป็นผู้นำที่เอาสมาคมมาเปิดที่สิงคโปร์ และเขาก็เป็นคนที่ทำให้สิงคโปร์เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบัน

05 เมษายน 2552

George Washington เป็นฟรีเมสัน

ภาพปกหนังสือนี้วาดภาพเขาในชุดฟรีเมสัน และกล่าวถึงชาวอเมริกันที่เป็นฟรีเมสัน

ธนบัตร 1 ดอลลาห์ มีภาพใบหน้าของเขา ซึ่งอีกด้านเป็นสัญลักษณ์ของอิลลูมินาต

ที่เม้ารัชมอร์ มีรูปสลักหน้าของเขาอยู่ที่นั่น
เมมโมเรียลของเขาที่ชาวเมสันแห่งรัฐเวอร์จิเนีย เมืองอเล็กซานเดรียสร้างขึ้น
เป็นอาคารที่สร้างเลียนแบบประภาคารของอียิปต์
และด้านหน้ามีสัญลักษณ์สมาคมฟรีเมสันขนาดใหญ่ยักษ์อยู่ที่นั่นด้วย

George Washington เป็นสมาชิกที่ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดของสมาคมฟรีเมสัน เพราะเขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา

มีภาพใบหน้าของเขาอยู่ที่แบงค์ 1 ดอลลาห์ ที่ภูเขาเม้ารัชมอร์ และมีเมมโมเรียลเพื่อระลึกถึงเขา

27 มีนาคม 2552

Angels & Demons เปิดเผยสมาคมลับ


ในหนังสือ เทวากับซาตาน ของแดน บราวน์ ได้เปิดเผยของมุลของสมาคมลับไว้อย่างแนบเนียน นั่นก็คือสมาคม "อิลลูมินาติ" และ "ฟรีเมสัน" ซึ่งทั้ง 2 สมาคมนี้เกี่ยวข้องกันอย่างเหลือเชื่อ และถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ อย่างที่หลายคนคิดเอาจากข้อมูลตื้นๆ ก็จะคิดว่าเป็นเรื่องแต่ง แต่หากศึกษาประวัติศาสตร์เชิงลึก ก็จะพบว่าสมาคมนี้ ฝังตัวระดับรากในประเทศไทยนานถึง 130 ปี